Royal Orchid Plus Thai Airways - การบินไทย คู่มือสะสมไมล์ แลกตั๋วเครื่อง สิทธิประโยชน์ ดูครบ จบที่เดียว

บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจาก Royal Orchid Plusโดยทาง ChaiMiles เป็นผู้รวบรวมและเรียบเรียง เพื่อนำเสนอข้อมูลของ Royal Orchid Plusที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน โดยบทความนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆจากทาง Royal Orchid Plus

1. Royal Orchid Plus คืออะไร
2. ประเภทสมาชิก Royal Orchid Plus
    2.1 วิธีการทำสถานะบัตรทอง Platinum
3. การสะสมไมล์ Royal Orchid Plus
4. วิธีดูรหัสตั๋วโดยสารการบินไทย
5. การสะสมไมล์ ด้วยบัตรเครดิต
6. สิทธิประโยชน์สมาชิก Royal Orchid Plus
    6.1 อัปเกรดที่นั่ง
    6.2 สิทธิ์ในการเข้า lounge 
    6.3 สิทธิ์ในการใช้ไมล์แลกตั๋วเครื่องบินอัตราพิเศษ
7. การแลกตั๋วเครื่องบินด้วยไมล์สะสม
8. แลกตั๋วเครื่องบินเส้นทางไหนคุ้ม

Royal Orchid Plus คืออะไร

Royal Orchid Plus หรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่า ROP เป็น Airline Loyalty Program ของการบินไทย โดยสมาชิกสามารถสะสมไมล์เมื่อเดินทางกับการบินไทย หรือสายการบินพันธมิตร Star Alliance อีกทั้งยังสามารถสะสมไมล์ผ่าน partner ด้านท่องเที่ยวต่างๆได้อีกด้วย

โดยสมาชิกสามารถนำไมล์สะสม ROP ไปใช้ในการแลกตั๋วเครื่องบินของการบินไทย หรือสายการบินพันธมิตรได้ รวมถึงสามารถนำไปใช้ในการอัพเกรดที่นั่ง หรือ แลกของรางวัลอื่นๆอย่างเช่นที่พักได้อีกด้วย

นอกจากนี้ การสะสมไมล์ของ Royal Orchid Plus ของสมาชิก จะถูกใช้เป็นเกณฑ์ในการเลื่อนไปสู่สถานะ Silver / Gold / Platinum ซึ่งมาพร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆอีกมากมาย

สามารถสมัครสมาชิก Royal Orchid Plus ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

สมาชิก Royal Orchid Plus มีกี่ระดับ อะไรบ้าง

แม้ว่าเราจะคุ้นหูว่าคนส่วนใหญ่ชอบพูดถึงบัตรทองการบินไทย แต่จริงๆแล้วสถานะของ Royal Orchid Plus ไม่ได้มีแค่บัตรทอง (Gold) แต่มีทั้งหมด 4 ระดับด้วยกัน คือ Basic / Silver / Gold หรือที่ทุกคนคุ้นหูในนามบัตรทอง / Platinum 

การจะได้สถานะแต่ละระดับ สมาชิกจะต้องสะสมไมล์ให้ครบตามกำหนด ซึ่งไมล์ตัวนี้จะได้จากการเดินทางกับการบินไทย ไทยสไมล์ และสายการบินพันธมิตร Star Alliance เท่านั้น

สถานะบัตร Silver / Gold / Platinum การบินไทย

Royal Orchid Plus แบ่งรอบการสะสมไมล์เป็น 2 รอบคือ สะสมไมล์ในรอบ 1 ปี กับ สะสมไมล์ในรอบ 2 ปี ความหมายคือ ถ้าสะสมไมล์ครบตามตารางด้านบนภายใน 1 ปี ก็จะได้รับสถานะนั้นไปทันที แต่ถ้าสะสมไม่ครบภายใน 1 ปี สามารถสะสมไมล์ต่อในปีที่ 2 เพื่อให้ครบตามกำหนด

ตัวอย่าง การสะสมไมล์เพื่อสถานะบัตรทอง

ภายในปี 2022 - สะสมไมล์ได้ 45,000 ไมล์

ภายในปี 2023 - จะต้องสะสมไมล์เพิ่มอีก 35,000 ไมล์ เพื่อรับสถานะบัตรทองการบินไทย

นอกจากการเลื่อนสถานะด้วยการสะสมไมล์แล้ว สำหรับบัตรทองการบินไทย สามารถรับสถานะบัตรทองได้ทันที เมื่อเดินทางในประเทศกับการบินไทย หรือไทยสไมล์ครบ 40 เที่ยวบิน ใน 1 ปี

หมายเหตุ **เที่ยวบินระหว่างประเทศของการบินไทยและไทยสมายล์ที่สำรองที่นั่งในรหัสชั้นโดยสาร T, K, S, G, V, W, L จะไม่สามารถนำมาคำนวณการได้รับและรักษาสถานภาพสมาชิกบัตรทอง รวมถึงการได้รับอภินันทนาการอัพเกรดชั้นโดยสาร ตามกฎเกณฑ์ 40 เที่ยวบิน ระหว่างประเทศกับการบินไทยและไทยสมายล์ในระยะเวลาต่อรอบ 12 เดือนได้

การสะสมไมล์ คิดยังไงว่าเที่ยวบินนี้ได้กี่ไมล์

โดยปรกติแล้ว การสะสมไมล์ของทุกสายการบินจะอยู่บนพื้นฐานเดียวกันหมด คือ (1) คิดตามระยะทางของเที่ยวบิน โดยใช้หน่วยเป็นไมล์ และ (2) รหัสของตั๋วโดยสาร

ตัวอย่างเช่น กรุงเทพ-โตเกียว ระยะทางประมาณ 2,479 ไมล์ ให้เอาไมล์สะสม 2,479 ไมล์ ตั้งเอาไว้ก่อน

ถัดมา ให้มาดูที่รหัสของตั๋วโดยสาร (รหัสของตั๋วโดยสาร ไม่ใช่ประเภทที่นั่ง) อย่างในกรณีของประเภทชั้นโดยสาร Economy จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดว่ามีรหัสตั๋วโดยสารมากถึง 12 ประเภท ซึ่งมีตั้งแต่ไม่ได้รับไมล์สะสม จนถึงได้รับไมล์สะสม 110%

วิธีดูรหัสตั๋วเครื่องบิน การบินไทย

โดยปรกติแล้ว เวลากดจองตั๋วเครื่องบินบนหน้าเว็บ เรามักจะเห็นประเภทตั๋วเป็นชื่ออย่าง Super Save / Save / Flexi / Full Flexi

ในขั้นตอนนี้ ให้กดเลือกประเภทตั๋วให้เสร็จก่อน จากนั้นจะเห็น Your Booking ทางด้านขวา ซึ่งจะมีบอกรหัสตั๋วโดยสารตามที่วงสีแดง ตามตัวอย่างคือ รหัส "W" ซึ่งจะได้รับไมล์ 25% ของระยะทางบิน

สำหรับตัวอย่างตามภาพ ระยะทางบินกรุงเทพ-โตเกียว ประมาณ 2,479 ไมล์ ถ้าจองตั๋วประเภท Super Saver จะได้รหัสตั๋วโดยสารประเภท "W - ได้รับไมล์ 25%" เท่ากับว่า การเดินทางครั้งนี้จะได้รับไมล์เพียง 620 ไมล์ ต่อขา เท่านั้น

สำหรับคนที่ต้องการสะสมไมล์เพื่อเลื่อนสถานะเป็นบัตรทอง (Gold) หรือ Platinum การกดจองตั๋วเครื่องบินที่ได้ไมล์ปรกติ 100% ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก 

แนะนำบัตรเครดิต สะสมไมล์ ROP

นอกจากการสะสมไมล์ด้วยการเดินทางจริงแล้ว ทาง Royal Orchid Plus ก็ยังมี Partner เป็นบัตรเครดิตธนาคารต่างๆมากมาย ที่สามารถโอนคะแนนบัตรเครดิตมาเป็นไมล์สะสมของ Royal Orchid Plus ได้

โดยอัตราการโอนคะแนนสะสม มาเป็น Royal Orchid Plus นั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคารและประเภทบัตร โดยบัตรเครดิตเด่นๆที่เหมาะสำหรับโอนมาเป็นไมล์สะสม จะมีอัตราการโอนตามภาพด้านบน

บัตรเครดิตสำหรับ Royal Orchid Plus จะมี 2 ประเภทใหญ่ๆคือ บัตรเครดิต Co-brand กับบัตรเครดิตทั่วไป

ความแตกต่างคือ คะแนนสะสมของบัตรเครดิต Co-brand จะแลกเป็นไมล์ ROP ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่บัตรเครดิตทั่วไปสามารถนำไปแลกได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น e-voucher ร้านค้าต่างๆ รวมถึงสามารถโอนคะแนนสะสมไปได้หลายสายการบิน

ข้อดีของบัตร Co-brand ที่แตกต่างจากบัตรเครดิตทั่วไป คือ บัตรเครดิตกลุ่มนี้มักจะมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเมื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือเดินทางกับ "การบินไทย" เช่น สามารถเข้า Royal Silk Lounge ได้ / รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นเมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินการบินไทย / รับเครดิตเงินคืน 3% เมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินการบินไทย

ดังนั้น การจะเลือกบัตรเครดิตเพื่อสะสมไมล์ Royal Orchid Plus สิ่งที่พิจารณาเป็นอันดับแรกคือ เราสะสมไมล์เพราะเดินทางกับการบินไทยบ่อย หรือต้องการจะสะสมไมล์จากการใช้จ่ายทั่วไปเพื่อแลกตั๋วการบินไทย

ถ้าหากปรกติเดินทางกับการบินไทยเป็นประจำ ChaiMiles แนะนำบัตรเครดิต Co-brand เป็นหลัก แต่ถ้าหากใช้จ่ายทั่วไปในชีวิตประจำวัน แนะนำให้เลือกบัตรเครดิตทั่วไป

โดยส่วนตัวแล้ว ChaiMiles ชอบบัตรเครดิตทั่วไปมากกว่า เพราะตัวเลือกในการใช้คะแนนสะสมเปิดกว้าง ไม่ถูกจำกัดเพียงแค่ต้องนำไปแลกเป็นไมล์สะสม ROP โดยบัตรเครดิตที่ทาง ChaiMiles แนะนำ มีดังนี้

UOB Zenith	สิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ
รายได้ 50,000 บาท / เดือน	UOB Zenith ที่สุดของบัตรเครดิตสำหรับคนเที่ยวเยอะ สิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ 25 บาท = 2 คะแนน เมื่อใช้จ่ายปรกติ  25 บาท = 3 คะแนน เมื่อใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ ฟรี! Priority Pass แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ฟรี! รถรับ/ส่ง สนามบินใน Asia Pacific 2 ครั้ง / ปีปฏิทิน สิทธิ์ในการจองโรงแรม 4 คืน จ่าย 3 คืน คะนนโบนัสประจำปีสูงสุด 5% บัตรเครดิต UOB Zenith เหมาะสำหรับคนเที่ยวเก่ง ชอบสะสมไมล์แลกหลายสายการบิน (ไม่จำกัดแค่ Royal Orchid Plus หรือ Krislfyer)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม	Welcome Offer	Annual Fee
สมัคร UOB Zenith		7,900 บาท

*โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา

UOB Privimiles	Highlight Benefits
รายได้ 70,000 บาท / เดือน	บัตรเครดิตสะสมไมล์ที่สามารถโอนคะแนนไปเป็นไมล์ได้ถึง 4 สายการบิน          สามารถสะสมไมล์ได้ไวขึ้นที่ 18 บาท = 1 ไมล์ เครดิตเงินคืน 10% ที่ปั้มน้ำมัน Caltex (เมื่อมียอดใช้จ่ายครบ 30,000 บาทต่อเดือน สิทธิในการเข้า Royal Silk Lounge ณ สนามบินสุวรรณภูมิสูงสุด 2 ครั้งต่อปี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม	Welcome Offer	Annual Fee
สมัครบัตรเครดิต UOB Privimiles		4,000 บาท ยกเว้นเมื่อใช้จ่ายครบ 300,000 บาท

*โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา

AMEX Platinum Charge Card	Highlight Benefits
รายได้ 100,000 บาท / เดือน	บัตรเครดิต AMEX Platinum Charge Card ที่มาพร้อม Welcome Offer สุดคุ้ม เป็น 1 ในบัตรเครดิตที่เหมาะสำหรับนักเดินทาง มาพร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆที่น่าสนใจ ดังนี้ 25 บาท = 1 คะแนน 25 บาท = 5 คะแนน เมื่อใช้จ่ายต่างประเทศ (เฉพาะยอดที่เกิน 500,000 บาท) บัตร Priority Pass ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สิทธิ์ในการเข้า AMEX Lounge Collection รถรับ/ส่งสนามบินสุวรรณภูมิ หรือดอนเมือง (เมื่อจองโรงแรมตามที่กำหนด) ประกันการเดินทาง ฟรีค่าธรรมเนียมบัตรเสริม 2 ใบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม	Welcome Offer	Annual Fee
สมัครบัตรเครดิต AMEX Platinum		40,000 บาท

*โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา

สิทธิประโยชน์สมาชิก Royal Orchid Plus

แม้ว่าสถานะของสมาชิก Royal Orchid Plus จะมีมากถึง 4 ระดับ แต่สถานะที่ได้สิทธิประโยชน์คุ้มค่าจริงๆ จะอยู่ที่สถานะ Gold เป็นต้นไป หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนามของ "บัตรทองการบินไทย"

ตามตารางจะเห็นได้ว่า สมาชิกระดับ Basic ไม่ได้สิทธิประโยชน์อะไรเลย และ Silver จะได้รับสิทธิประโยชน์เพียงโบนัสไมล์สะสม 3,000 ไมล์ เมื่อได้รับสถานะ  และน้ำหนักสัมภาระที่โหลดได้เพิ่ม 10 กิโลกรัมเท่านั้น 

แต่เมื่อมาดูในส่วนของ Gold และ Platinum แล้ว จำนวนไมล์สะสมที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ไมล์ และ 10,000 ไมล์ ตามลำดับ รวมถึงน้ำหนักกระเป๋าก็เพิ่มขึ้นเป็น 20 กิโลกรัมและ 30 กิโลกรัม

นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์หลักที่อำนวยความสะดวกในสนามบิน อย่าง counter check-in พิเศษที่ปรกติให้บริการเฉพาะคนที่เดินทางระดับชั้น Royal Silk เป็นต้นไป สมาชิกตั้งแต่ระดับ Gold ก็สามารถเข้าใช้บริการได้ แม้ว่าจะเดินทางด้วยตั๋วประเภท Economy ก็ตาม นอกจากนี้ก็ยังได้สิทธิ์ในการขึ้นเครื่องก่อน รวมถึงสิทธิ์ในการรับกระเป๋าสัมภาระก่อน (Priority Baggage) อีกด้วย

แต่สิ่งที่มีมูลค่ามากสุดๆที่ทำให้ผู้คนเก็บสถานะบัตรทองกันก็คือ สิทธิ์ในการอัพเกรดที่นั่ง

สิทธิ์ในการอัพเกรดที่นั่ง บัตรทองการบินไทย บัตรแพลตตินั่ม การบินไทย

สิทธิ์ในการอัพเกรดที่นั่งของบัตรทอง และบัตรแพลตตินั่ม มีความแตกต่างกันในเรื่องของจำวนสิทธิ์

สำหรับบัตรทองการบินไทย - จะได้รับ 1 สิทธิ์เมื่อได้สถานะบัตรทอง และรับเพิ่มอีก 1 สิทธิ์ เมื่อสะสมครบ 50,000 ไมล์ / 40 เที่ยวบินในประเทศ ภายใน 12 เดือนแรก หรือ 12 เดือนหลัง นับจากวันที่ได้รับสถานะบัตรทอง ซึ่งจำกัดสูงสุดคือ 2 ครั้ง

สำหรับบัตรแพลตตินั่มการบินไทย - จะได้รับ 1 สิทธิ์เมื่อได้สถานะบัตรทอง และรับเพิ่มอีก 1 สิทธิ์ เมื่อสะสมครบทุกๆ 50,000 ไมล์ โดยไม่มีจำกัดจำนวนสิทธิ์ เช่น หากเดินทางครบ 200,000 ไมล์ ก็จะได้รับเพิ่มทั้งหมด 4 สิทธิ์ด้วยกัน

สิทธิ์ในการอัพเกรดที่นั่ง แนะนำให้ใช้อัพเกรดจาก Economy Class ไป Business Class ในเส้นทางยุโรปเป็นอย่างน้อย ซึ่งการใช้ 1 เที่ยวบินไป-กลับ อาจมีมูลค่าสูงถึงหลักแสนบาทได้เลย

หลักการใช้สิทธิ์อัพเกรดที่นั่งการบินไทย

สิทธิ์ในการอัพเกรดที่นั่งการบินไทย ของบัตรทอง และบัตรแพลตตินั่มจะเหมือนกัน คือ 

• การอัพเกรดที่นั่ง คือการอัพเกรดรหัสชั้นโดยสารที่สูงขึ้นไป 1 ระดับ
• 1 สิทธิ์สามารถใช้อัพเกรดที่นั่ง ไป-กลับ ระหว่างประเทศของการบินไทย 1 ครั้ง
• มีค่าภาษีและค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระสำหรับการอัพเกรดที่นั่ง

เงื่อนไขตั๋วโดยสาร

• ไม่สามารถใช้ได้กับรหัสตั๋วเครื่องบิน T / K / S / G / V / W / L (ตั๋วโดยสารราคาโปรโมชั่นที่ได้รับไมล์สะสมไม่เต็ม 100%)
• ไม่สามารถใช้ได้กับบัตรโดยสารราคาพิเศษบางรหัสชั้น 

สิทธิ์ในการเข้า Lounge

สิทธิ์ประโยชน์ถัดมาที่อำนวยความสะดวกสุดๆสำหรับสมาชิก Gold และ Platinum ก็คือสิทธิ์ในการเข้า Lounge ของการบินไทย และ Star Alliance พร้อมผู้ติดตาม 1 คน 

โดยปรกติแล้ว Lounge ของการบินไทย จะให้บริการเฉพาะผู้ที่เดินทางตั้งแต่ Business Class เป็นต้นไปเท่านั้น แต่สำหรับสมาชิก Gold และ Platinum จะสามารถใช้บริการได้ แม้ว่าจะเดินทางในชั้นโดยสาร Economy Class ก็ตาม

หมายเหตุ 

• สมาชิกบัตรทอง รอยัล ออร์คิด พลัส และผู้ติดตาม 1 ท่าน ที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าใช้ห้องรับรอง รอยัล ซิลค์ คลาส และห้องรับรองของไทยสมายล์ จะต้องเป็นผู้ที่เดินทางกับสายการบินไทยหรือไทยสมายล์ที่เป็นเที่ยวบินเดียวกันเท่านั้น
• สมาชิกบัตรทอง รอยัล ออร์คิด พลัส และผู้ติดตาม 1 ท่าน ที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าใช้ห้องรับรอง สตาร์ อัลไลแอนซ์ ทั่วโลก ที่มีเครื่องหมาย สตาร์ อัลไลแอนซ์ โกลด์ จะต้องเป็นผู้ที่เดินทางกับสายการบินในเครือ สตาร์ อัลไลแอนซ์ ที่เป็นเที่ยวบินเดียวกันเท่านั้น

สิทธิ์ในการใช้ไมล์แลกตั๋วเครื่องบินในอัตราพิเศษ

50% THAI Airways Award Redemption

ตารางแลกบัตรโดยสารการบินไทย ไป-กลับ แบบลด 50%

ถ้าหากเรียกให้คุ้นหูก็คึอ Birthday Gift ที่ทางสมาชิก Gold และ Platinum จะได้รับทุกปี (1 สิทธิ์ / ปีปฏิทิน) นั่นหมายความว่า สมาชิก Gold / Platinum ที่มีอายุ 2 ปี จะสามารถใช้สิทธิ์ Birthday Gift ได้ 2 ครั้งนั่นเอง

สิทธิประโยชน์ของ Birthday Gift นี้มีมูลค่าค่อนข้างสูง เพราะเป็นการให้สิทธิ์ในการแลกตั๋วเครื่องบินของการบินไทย (ไป-กลับ) โดยใช้ไมล์เพียง 50% เท่านั้น (จะต้องชำระค่าภาษีและค่าธรรมเนียมตามปรกติ) 

การแลกตั๋วเครื่องบิน ด้วยไมล์ Royal Orchid Plus

ในส่วนของการแลกตั๋วเครื่องบินด้วย Royal Orchid Plus จะสามารถแลกได้ทั้งเที่ยวบินของการบินไทย และเที่ยวบินของสายการบินพันธมิตรในเครือ Star Alliance โดยจำนวนไมล์ที่ใช้ในการแลกตั๋วเครื่องบินของสายการบินพันธมิตรในเครือ Star Alliance จะสูงกว่าของการบินไทยเล็กน้อย

วิธีการแลกตั๋วเครื่องบินด้วย Royal Orchid Plus สามารถทำได้ด้วยตนเองผ่าน Official Website

Air Awards | Royal Orchid Plus (thaiairways.com)

ตารางแลกบัตรโดยสารการบินไทย one-way

สำหรับจำนวนไมล์ที่ใช้ในการแลกตั๋วเครื่องบินของการบินไทย จะคิดตามระยะทาง โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 โซนด้วยกัน ยิ่งระยะทางบินไกลก็จะต้องใช้ไมล์ในการแลกที่สูงขึ้นตามลำดับ 

สำหรับเส้นทางที่คุ้มค่าในการแลกด้วย Royal Orchid Plus จะมีอยู่หลากหลายเส้นทางด้วยกัน

Sweet Spot 1 : Business Class เส้นทาง กรุงเทพ-บริสเบน / ซิดนีย์ / เมลเบิร์น

โดยปรกติแล้ว เส้นทางอย่าง กรุงเทพ-ซิดนีย์ หรือ เมลเบิร์น ราคาตั๋วเครื่องบิน Business Class ไปกลับจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท เส้นทางนี้การบินไทยใช้ Boeing 777-300ER ที่นั่ง Flat Seat 180 องศา จัดที่นั่งแบบ 1-2-1 มีความเป็นส่วนตัว

seating B777-300ER | Our Aircraft | Thai Airways

เส้นทาง Zone 4 เส้นทาง กรุงเทพ-ซิดนีย์ ที่นั่งประเภท Business Class ราคาปรกติจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท ในกรณีที่เราใช้ Royal Orchid Plus แลกตั๋วเครื่องบิน จะต้องใช้ 130,000 ไมล์ + ค่าภาษีและค่าธรรมเนียม 15,375 บาท ด้วยอัตรานี้ ทำให้มูลค่าอยู่ที่ที่ 1 ไมล์ = 0.65 บาท

Sweet Spot 2 : First Class เส้นทาง กรุงเทพ-ยุโรป

อีก 1 เส้นทางที่น่าสนใจคือ ตั๋วเครื่องบิน First Class เส้นทางสู่ยุโรปซึ่งมีให้เลือกหลายเมืองมากๆ ไม่ว่าจะเป็นลอนดอน มิวนิค ปารีส ซึ่งตั๋วเครื่องบิน First Class ไป-กลับ กรุงเทพ-ยุโรป ปรกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 240,000 บาท 

แต่ถ้าแลกตั๋วเครื่องบิน First Class ด้วย Royal Orchid Plus จะต้องใช้ทั้งหมด 250,000 ไมล์ สำหรับ ไป-กลับ 1 เที่ยวบิน พร้อมค่าภาษีและค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มอีกประมาณ 27,000 บาท

สำหรับเส้นทางนี้ จะทำให้ 1 ไมล์มีมูลค่ามากถึง 0.85 บาท