JR Pass บัตรนั่งรถไฟแบบ Unlimited
ที่จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสะดวกและประหยัดยิ่งขึ้น
อย่าลืมเช็ค Code ส่วนลด Klook ก่อนซื้อ
บทความนี้ทาง ChaiMiles
เขียนขึ้นจากการเก็บข้อมูลและเรียบเรียงข้อมูลเกี่ยวกับบัตรโดยสาร JR Pass
เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
โดยบทความนี้ไม่ใช่บทความของเจ้าของผลิตภัณฑ์ | ChaiMiles
อาจจะได้รับผลตอบแทนจากการคลิก link ในบทความ ขอบคุณที่สนันสนุน ChaiMiles
1. Japan Rail Pass (JR Pass) คืออะไร มีทั้งหมดกี่ประเภท
1.1 JR Pass ทั่วประเทศญี่ปุ่น ใช้พื้นที่ไหน เท่าไหร่ ได้กี่วัน
2. JR Pass ราคาเท่าไหร่ ใช้เส้นทางไหนได้บ้าง
3. JR Pass ซื้อที่ไหน รับบัตรยังไง
3.1 รับบัตร JR Pass ที่ไหน ทำยังไง
4. วิธีใช้ JR Pass ต้องทำอย่างไร
4.1 วิธีดูรถไฟ Shinkansen ขบวนไหนต้องออกตั๋วแบบระบุที่นั่ง
5. วิธีการจองที่นั่ง Shinkansen online ด้วย JR Pass
5.1 วิธีใช้ JR Pass จองตั๋วที่นั่งออนไลน์
5.2 วิธีใช้ JR Pass จองตั๋วที่นั่งผ่าน Vending Machine
Japan Rail Pass คืออะไร
Japan Rail Pass หรือที่เรียกสั้นๆว่า "JR Pass"
เป็นบัตรเหมาจ่ายสำหรับขึ้นรถไฟที่ให้บริการโดยกลุ่มบริษัท JR ครอบคลุมทั้งในส่วนของรถไฟทั่วไป รถไฟแบบ Limited
Express และรถไฟความเร็วสูง Shinkansen นอกจากนี้ JR Pass
ยังครอบคลุมไปถึงการเดินทางด้วยรถบัส และเรือ ที่ให้บริการโดยบริษัท JR อีกด้วย
JR Pass มีทั้งหมดกี่ประเภท อะไรบ้าง
เมื่อพูดถึง JR Pass แล้ว โดยปรกติจะหมายถึงบัตรโดยสาร JR Pass
ที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่แท้จริงแล้ว
บัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายของ Japan Rail เอง ก็มีแยกขายตามแต่ละภูมิภาค
ซึ่งครอบคลุมเส้นทางที่น้อยลง มาพร้อมกับราคาที่ถูกลงค่อนข้างมาก
ดังนั้น การเลือกซื้อบัตรโดยสาร JR Pass จึงต้องคำนึงถึง 2 เรื่องหลักๆคือ
- เส้นทางรถไฟที่ต้องการใช้งาน
- ระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน
ตัวอย่างเช่น
หากเราท่องเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน โดยต้องการเที่ยวใน Tokyo 4 วัน และเที่ยวรอบๆ
Tokyo อีก 3 วัน การซื้อบัตรโดยสาร JR Tokyo Wide Pass ของ JR East
จะทำให้ประหยัดกว่าการซื้อ JR Pass 7 วันถึง ~18,000 เยน
การวางแผนท่องเที่ยวที่ดี และเลือกซื้อ JR Pass แบบที่เหมาะสม
จะทำให้เราประหยัดค่าเดินทางได้เป็นจำนวนมาก
และทำให้ไม่เหนื่อยในการเดินทางอีกด้วย
JR Pass ทั้งหมด มีอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่
ประเทศญี่ปุ่นได้มีการปรับขึ้นราคา Pass ทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม
2566
โดยตารางด้านล่าง จะเป็นราคาที่ถูกปรับเรียบร้อยแล้ว
(สามารถอ่านรายละเอียดการปรับราคา JR Pass ได้ที่นี่)
สามารถกด link ในตารางเพื่อซื้อผ่าน Klook ได้เลย
Tips : แนะนำให้วางแพลนเที่ยวตาม JR Pass เป็นหลัก
ซึ่งจะทำให้ประหยัดเงินค่าเดินทาง ไม่ต้องย้ายกระเป๋าสัมภาระ หรือย้ายโรงแรมบ่อยๆ
เพราะหากเดินทางข้ามภูมิภาค หรือข้ามพื้นที่ JR Pass
อาจจะทำให้ต้องซื้อตั๋วรถไฟแยก ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ญี่ปุ่น
ไม่ถูกเหมือนประเทศไทย
JR Pass All Area คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ใช้เส้นทางไหนได้บ้าง
JR Pass All Area
เป็นบัตรโดยสารที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เกาะทางใต้อย่างคิวชูไปจนถึงเหนือสุดอย่างฮอกไกโด
สามารถใช้ JR Pass (All Area) เข้า-ออกที่สถานีใดก็ได้ในเครือของบริษัท JR
แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมถึงครอบคลุมรถไฟความเร็วสูงอย่าง Shinkansen
ที่มีราคาแพงอีกด้วย
คลิกดูเส้นทางที่รวมอยู่ใน JR Pass (All Area)
คลิกดูเส้นทางรถไฟ Shinkansen ที่รวมอยู่ใน JR Pass (All Area)
โดยปรกติแล้วการซื้อ JR Pass จะมี 2 แบบคือ
- ซื้อกับตัวแทนจำหน่าย นอกประเทศญี่ปุ่น (Oversea)
- ซื้อกับ Japan Rail Pass Online หรือซื้อที่ Ticket Office เมื่อถึงประเทศญี่ปุ่น
การซื้อทั้ง 2 แบบจะได้ JR Pass (All Area) ที่เหมือนกันทุกประการ
แต่การซื้อกับตัวแทนจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่นจะได้ราคาที่ถูกกว่า
ราคา JR Pass (All Area) เมื่อซื้อกับตัวแทนจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น
อัพเดทราคาใหม่ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2566
ตามตารางจะเห็นได้ว่า JR Pass All Area จะแบ่งตั๋วออกเป็น 2 ประเภท (Green และ
Ordinary) 3 ระยะเวลา คือ (7 วัน / 14 วัน / 21 วัน)
สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป แนะนำให้ซื้อแบบ Ordinary (ใช้โดยสารรถไฟ JR ปรกติ
ทั้งแบบ reserved seat และ non-reserved seat) ส่วนประเภท Green จะเป็นตั๋ว JR
Pass ที่สามารถออกที่นั่งบนรถไฟประเภท Green Car (เปรียบเสมือนที่นั่ง Business
Class บนเครื่องบิน) โดยที่นั่งจะมีขนาดใหญ่กว่า ระยะห่างระหว่างขาเพิ่มขึ้น
ความแออัดต่อขบวนลดน้อยลง และมีที่ชาร์ต USB ในแต่ละที่นั่ง
JR Pass All Area ซื้อที่ไหน รับบัตรตัวจริงยังไง
ในหัวข้อก่อนหน้านี้ การซื้อ JR Pass (All Area)
กับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยจะได้ราคาที่ถูกกว่าการกดซื้อออนไลน์ผ่าน Japan Rail
Pass Online หรือซื้อที่ Ticket Office ที่ประเทศญี่ปุ่น
ดังนั้น การซื้อ JR Pass All Area ทาง ChaiMiles
แนะนำให้ซื้อกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย มาดูกันว่ามีเจ้าไหนบ้าง
ตัวแทนจำหน่าย JR Pass ในประเทศไทย
สำหรับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย หลักๆจะมีด้วยกัน 4 เจ้าคือ
- JTB Corp.'s Authorized Travel Agents
- KNT-CT Holdings (kintetsu international)
- Nippon Travel Agency's Authorized Travel Agents
- JALPAK Group's Authorized Travel Agents
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อตัวแทนจำหน่าย JR Pass ในประเทศไทยทั้งหมด
ถ้าพูดถึง Agent ทั้ง 4 เจ้าหลัก อาจจะไม่หุ้นหูกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึง
Office ตัวแทนจำหน่ายอย่าง JTB / H.I.S. Tours /
Klook
/ Wendy Tour /
JRPass
อาจจะคุ้นหูกันมากกว่า เพราะสามารถกดซื้อออนไลน์ได้เลย แถมบางครั้งก็มี Code
ส่วนลดเพิ่มเติมด้วย แต่ถ้าใครไม่มั่นใจ ก็สามารถกดซื้อบนหน้าเว็บของ JR
ได้เองเช่นกัน (แนะนำให้เลือกสกุลเงินเป็น JPY จะถูกกว่าการเลือกสกุลเงิน USD)
นอกจากการซื้อล่วงหน้าแล้ว ปัจจุบันทางญี่ปุ่นได้เพิ่มช่องทางการซื้อผ่าน
Vending Machine ตามสถานีรถไฟ JR สามารถซื้อเมื่อไปถึงได้เลย
สำหรับ Agency ในประเทศไทย การสั่งซื้อ JR Pass ผ่าน
Klook
จะน่าสนใจที่สุด เพราะจะมี promo code ให้ส่วนลดออกมาเป็นช่วงๆตามเทศกาลต่างๆ
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยซื้อ JR Pass ผ่าน Klook ทาง ChaiMiles มีรีวิวขั้นตอนการซื้อ JR Pass ผ่าน Klook
แบบละเอียดเอาไว้ พร้อมทั้งทริคการซื้อแบบได้รับส่วนลด 2 ต่อจุกๆ
ดูได้ที่นี่เลย
วิธีการรับบัตร JR Pass เมื่อไปถึงญี่ปุ่น
สำหรับคนที่ซื้อล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือซื้อกับ Agent ต่างๆ
ให้เตรียมเอกสารหลักฐานการสั่งซื้อ และ Passport ตัวจริงเอาไว้ให้เรียบร้อย
เมื่อเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ให้ติดต่อ JR Ticket Counter
โดยยื่นหลักฐานการสั่งซื้อพร้อม Passport เพื่อรับบัตร JR Pass ตัวจริง
ขอบคุณภาพจาก JR West
นอกจากการรับตั๋วที่ Ticket Office แบบสมัยก่อนแล้ว
ยังสามารถรับตั๋วด้วยตัวเองผ่าน Vending Machine ตามสถานี JR ได้อีกด้วย
โดยให้มองหาเครื่องออกตั๋วสีเขียว ที่มีสัญลักษณ์ Passport

JR Pass ใช้ยังไง ต้องออกตั๋วเพิ่มหรือเปล่า
ปัจจุบัน JR Pass
จะไม่ใช่กระดาษพับแผ่นใหญ่ๆที่ต้องยื่นให้พนักงานผ่านช่องพิเศษอีกต่อไป
โดยคนที่ถือ JR Pass จะได้รับบัตรในรูปแบบของตั๋วรถไฟทั่วไป
การใช้งาน JR Pass จะมี 2 รูปแบบด้วยกัน
- ใช้เดินทางรถไฟขบวน non-reserved seat (ไม่ระบุที่นั่ง)
- ใช้เดินทางรถไฟขบวน reserved seat (ระบุที่นั่ง)
ความแตกต่างของการเดินทางของ non-reserved seat และแบบ reserved seat ก็คือ
รถไฟขบวนที่เป็น reserved seat จะต้องใช้บัตร JR Pass
ในการออกตั๋วรถไฟแบบระบุที่นั่ง โดยสามารถออกตั๋วได้ที่เครื่องออกตั๋วสีเขียว
(Vending Machine) หรือติดต่อที่ JR Ticket Counter เพื่อให้พนักงานออกตั๋วให้
สำหรับการเดินทางกับรถไฟขบวนที่เป็น non-reserved seat เราสามารถใช้บัตร JR Pass
ผ่านเข้าสถานี และขึ้นไปเลือกที่นั่งบนรถไฟได้เองเลย
โดยไม่ต้องออกตั๋วเพิ่มเติมแต่อย่างใด
วิธีการดูประเภทขบวนรถไฟ
เนื่องจากเว็บยอดนิยมอย่าง Hyperdia ไม่สามารถใช้งานตามเดิมได้อีกต่อไป ทาง
ChaiMiles แนะนำให้ใช้ JR Timetable Search | Ekispert ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับของ Hyperdia มากที่สุด
และตารางเวลาการเดินรถก็จะตรงกับของทางญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
ในการใช้งาน JR Timetable Search | Ekispert สำหรับขบวนรถไฟที่เป็น Reserved Seat Only ระบบจะขึ้นคำว่า "Reserved"
ตรงด้านขวา ซึ่งหมายความว่า เราจะต้องใช้ JR Pass
ในการจองที่นั่งและออกตั๋วเท่านั้น จึงจะสามารถใช้บริการได้
สำหรับขบวนรถไฟ Shinkansen ที่เป็นจะต้องออกตั๋วแบบระบุที่นั่งเสมอ (Reserved
Seat Only) จะมีทั้งหมด 4 ขบวน สำหรับเส้นทาง Tohoku/Hokkaido Shinkansen และ 1
ขบวนสำหรับ Hokuriku Shinkansen
- Hayabusa
- Hayate
- Komachi
- Tsubasa
- Kagayaki
ตัวอย่างตามภาพด้านบน ก็คือ รถไฟ Shinkansen Hayabusa 7 ซึ่งเป็นขบวน Reserved
Seat Only
สำหรับขบวนรถไฟ Shinkansen ที่ไม่จำเป็นต้องจองตั๋ว จะขึ้นข้อความ "Non-Reserved"
ทางด้านขวา แต่ถ้าเป็นเส้นทางระยะไกล แม้ว่าระบบจะขึ้นว่า "Non-Reserved"
แต่เราก็สามารถใช้ JR Pass จองตั๋วที่นั่งได้
เป็นการการันตีว่าจะมีที่นั่งในการเดินทางระยะไกลแน่นอน
วิธีการออกตั๋วรถไฟ Shinkansen ด้วย JR Pass
สำหรับคนที่ซื้อตั๋วล่วงหน้า และได้ Electronic Ticket ที่เป็น Exchange Voucher
มาเรียบร้อยแล้ว สามารถนำ Exchange Ticket ตัวนี้มาใช้ในการจองที่นั่ง Shinkansen
ได้เลย ไม่จำเป็นที่จะต้องไปแลกตั๋ว JR Pass ที่ญี่ปุ่นแล้วจึงค่อยจองที่นั่ง
ขั้นตอนการจองนั้นไม่ยุ่งยากเลย สามารถจองได้ด้วยตัวเองผ่านหน้าเว็บของ JR โดยตรง
ระบบจะเปิดให้จองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 03:00 - 21:50 และ 22:10 -
23:50 (ตามเวลาประเทศไทย
สำหรับคนที่ยังไม่มี account ของทาง JR จะต้องสมัครและทำการ add
บัตรเครดิตเพื่อยืนยันตัวตนเข้าไปก่อน
จากนั้นจึง login เข้าไปในระบบของ JR ระบุหมายเลข JR Pass และเลือกขบวนที่ต้องการ
หมายเหตุ : เฉพาะตั๋ว JR Pass ที่ซื้อผ่านทางออนไลน์กับ JR Official เท่านั้น
จึงจะสามารถจองตั๋วออนไลน์โดยที่ยังไม่มี JR Pass ตัวจริงได้
วิธีการออกตั๋วรถไฟ Shinkansen ด้วย JR Pass ที่ Vending Machine
ในการใช้บัตร JR Pass เพื่อนั่งรถไฟ Shinkansen ปัจจุบันจะต้องใช้บัตร JR Pass
เสียบเข้าที่เครื่องอ่านบัตรโดยตรง จะไม่ใช้การแสดงบัตร JR Pass
ให้เจ้าหน้าที่และเดินผ่านช่องทางพิเศษอีกต่อไป
สำหรับขบวนที่เป็น Non-Reserved Seat สามารถใช้บัตร JR Pass
เสียบเข้าเครื่องอ่านตั๋วที่ Gate ทางเข้าได้เลย
แต่สำหรับคนที่ต้องการจองที่นั่งในขบวน Reserved Seat สามารถทำได้ 2 วิธีคือ
- ให้พนักงานออกตั๋วที่ Ticket Office
- ออกตั๋วรถไฟเองที่ Vending Machine
ในการเดินทางเที่ยวด้วยรถไฟ Shinkansen จริงๆแล้ว ChaiMiles แนะนำให้จองแบบ
Reserved Seat ตลอด โดยเฉพาะเส้นทางระยะไกล
เพื่อเป็นการการันตีว่าเราจะมีที่นั่งและได้ไปในเวลาที่ต้องการแน่ๆ
ไม่ต้องมาลุ้นว่า Non-Reserved Seat จะมีที่นั่งว่างหรือเปล่า
ดูวิธีการกดออกจองที่นั่ง Shinkansen ด้วยบัตร JR Pass
สำหรับคนที่ต้องการเช็คตารางรถไฟล่วงหน้า ChaiMiles แนะนำให้โหลด
Application Japan Official Travel Application ซึ่งสามารถดูได้ล่วงหน้า เลือก Filter ได้ตาม JR Pass ที่มี
และมีความเที่ยงตรงสูงมากๆ
วิธีการสอดตั๋วรถไฟ Shinkansen เพื่อเข้า Gate
สำหรับนการเดินทางด้วยรถไฟ Shinkansen แบบ Non-Reserved Seat หรือรถไฟ JR
แบบทั่วไป สามารถนำบัตร JR Pass สอดผ่านเครื่องได้หมือนตั๋วปรกตืได้เลย
แต่สำหรับคนที่ออกตั๋วแบบระบุที่นั่ง (Reserved Seat) เวลาสอดบัตร
"ห้ามสอดเฉพาะตั๋ว Reserved Seat" หากสอดเฉพาะตั๋ว "Reserved Seat"
เครื่องจะร้องและกั้นไม่ให้เราผ่าน Gate
สำหรับขาเข้า ให้สอดตั๋ว 2 ใบ (JR Pass + ตั๋ว Reserved Seat) ซ้อนกันตามภาพ
จะกลับหัว กลับด้าน หน้าหลังทำได้หมด ขอแค่ใส่ 2 ใบซ้อนกัน และตอนผ่าน Gate
จะมีตัวเลขขึ้นที่หน้าจอว่าให้หยิบตั๋วคืน 2 ใบ
สำหรับขาออก ให้สอดตั๋วพร้อมกัน 2 ใบเหมือนเดิม
แต่หน้าจอตอนคืนบัตรจะขึ้นให้รับคืน 1 ใบเท่านั้น ให้รับบัตร JR Pass
คืนและเก็บให้ดีตลอดการใช้งาน